Skip to content
Home » ข่าวสาร » ยาละลายเสมหะ (N-acetylcysteine) หรือ NAC Long สามารถป้องกันปอดอักเสบจากโควิดได้จริงหรือ ?

ยาละลายเสมหะ (N-acetylcysteine) หรือ NAC Long สามารถป้องกันปอดอักเสบจากโควิดได้จริงหรือ ?

  • by

ในช่วงการระบาดหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลายคนคงอาจจะพารานอย คิดว่าตัวเองติดหรือยัง? จะระวังยังไง? สงสัยว่าตนเองมีอาการอยู่ในกลุ่มไหน? อาการหนักหรือไม่? เชื้อไวรัสจะลงปอดหรือยัง? เกิดการวิตกจริตไปตามๆ กัน ในช่วงการระบาดหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจวบกับระหว่างที่รอวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทางเลือก mRNA ไม่ว่าจะเป็นของ วัคซีนโมเดอร์นา (MODERNA VACCINE) , วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) หรือแม้กระทั้ง ยารักษาโควิดชนิดเม็ดตัวใหม่ที่พึ่งคิดค้นได้ เมื่อไม่นานนี้ ที่มีประสิทธิ์ภาพดีกว่า “ยาฟาวิพิราเวียร์” (favipiravir) โดยมีชื่อว่า “โมลนูพิราเวียร์” (molnupiravir) จากประเทศเยอรมัน

วิธีเช็คอาการเบื้องต้น ว่าเชื้อโควิด-19 ลงปอดหรือยัง?

เดินไปมา ลุกยืนหรือลุกนั่ง 3 ครั้ง หรือ กลั้นหายใจ 10 – 15 วินาที หากทำแล้วเหนื่อย และวัดออกซิเจนในเลือดได้ต่ำกว่า 94 ลงไป ให้สงสัยว่าเชื้อโควิดลงปอดไว้ก่อน

ดูแลตนเองอย่างไร? เมื่อสงสัยว่าเชื้อโควิด-19 เริ่มลงปอด!

แนะนำให้ “นอนคว่ำ” ระหว่างรอเตียง

  • การนอนคว่ำ เพื่อให้ปอดไม่มีการกดทับ และทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยวิธีการนอนคว่ำให้กอดหมอนไว้ที่หน้าอก เพื่อให้นอนสบายขึ้น
  • ผู้ป่วยบางคน หากนอนคว่ำไม่ได้ หายใจไม่ออก ให้นอนกึ่งตะแคงกึ่งคว่ำ 45 องศามาทางเตียง
  • กรณีที่ตั้งครรภ์ให้นอนตะแคงด้านซ้าย เพราะจะทำให้น้ำหนักของมดลูกไม่ไปกดเส้นเลือดดำใหญ่ ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก

ขยับขาบ่อยๆ เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด

พยายามเคลื่อนไหวขาบ่อยๆ เพื่อให้เลือดไหลเวียน และป้องกันการเกิดลิ่มเลือด เช่น ยืดงอขา หรือยืดเหยียดปลายเท้า เป็นต้น

ดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารให้เพียงพอ

  • ควรดื่มน้ำมากๆ ประมาณ 2 – 2.5 ลิตรต่อวัน แต่อย่าดื่มมากเกินไปเพราะจะส่งผลเสียทำให้เกลือแร่ในร่างกายเจือจางลง
  • หากยังสามารถรับประทานอาหารได้ ให้พยายามรับประทานให้เพียงพอ
  • ในกรณีที่รับประทานอาหารไม่ได้เลย ให้ดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทน

รับประทานยาประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ

  • ไม่ควรงดการรับประทานยาประจำตัว อย่าขาดยา
  • หากมีโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาขับปัสสาวะอยู่ แล้วดื่มน้ำไม่ได้ ตรงนี้ให้งดยาไปก่อน
  • หากรับประทานยาโรคความดันโลหิตสูงอยู่ ควรวัดความดันบ่อยๆ ถ้าพบว่าความดันต่ำกว่า 90/60 ควรงดยาความดันโลหิตสูง เพราะเราไม่ต้องการให้ความดันต่ำไปกว่านั้น ถ้าความดันต่ำมากจะอันตราย อาจช็อกหรือหมดสติได้
  • หากรับประทานยาโรคเบาหวานอยู่ ควรตรวจน้ำตาลสม่ำเสมอๆ ตรวจ 4 เวลาแล้วจดไว้ ถ้าพบว่าน้ำตาลต่ำประมาณ 100 และทานอาหารไม่ได้ ทานได้น้อย ควรงดฉีดอินซูลิน หรืองดยากลุ่มที่ลดน้ำตาลในเลือด เพราะถ้ามีภาวะน้ำตาลต่ำในขณะที่ป่วยโควิดจะเป็นอันตรายได้

เตรียมยา ไว้รับประทานเวลามีอาการ

  • ถ้ามีไข้ ให้รับประทานยาพาราเซตามอลเท่านั้น หากเริ่มมีไข้ต่ำๆ ให้รับประทานพาราฯ ได้เลย อย่ารอให้ไข้สูงหรือหนาวสั่น เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอ *แต่ไม่แนะนำให้รับประทานยาลดไข้กลุ่ม NSAID เช่น ibuprofen, naproxen, mefenamic acid (Ponstan), diclofenac (Voltaren) เพราะอาจทำให้ไตวายได้*
  • ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร/กระชายขาว รับประทานได้แต่ต้องทานตามปริมาณกำหนดของกรมการแพทย์แผนไทย *หากทานเกินปริมาณกำหนดอาจทำให้ตับวายได้*
  • ส่วนผู้ป่วยโรคตับ ห้ามรับประทาน เพราะอาจทำให้ตับวายได้ หรือผู้ที่แพ้ยาพาราเซาตามอล แนะนำให้เช็ดตัวเพื่อลดไข้

ยาละลายเสมหะ (N-acetylcysteine) หรือ NAC Long สามารถป้องกันปอดอักเสบจากโควิดได้จริงหรือ ?

มียาอีกหนึ่งกลุ่มที่ถูกพูดถึงมากในโลกโซเชียล นั้นก็คือ NAC (N-acetylcysteine) เป็นยาละลายเสมหะ
1. ฤทธิ์ละลายเสมหะ การอักเสบของทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะเกิดจากการติดเชื้อ เช่น แบคทีเรีย, ไวรัส
2. ฤทธิ์ขับเสมหะ NAC เพิ่มการทำงานของขนกวัดของเยื่อบุทางเดินหายใจในการกำจัดเสมหะ
3. ฤทธิ์กำจัดสารพิษ และสารอนุมูลอิสระ สารพิษและอนุมูลอิสระ ที่เกิดภายในร่างกาย (เช่น เกิดจากของเสียที่เกิดจากการเผาผลาญ หรือเมตาบอลิซึมของเซลล์) และภายนอกร่างกาย (เช่น เกิดจากมลพิษในอากาศ, ฝุ่น, ควันบุหรี่, ยาบางชนิด, ความเครียด, การติดเชื้อ, การบาดเจ็บ, การอักเสบ) สามารถทำร้ายเซลล์ในร่างกาย  ทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลาย มีการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้ทางเดินหายใจบวม

และด้วยหนึ่งในงานวิจัยที่ว่า NAC สามารถกำจัดสารพิษและอนุมูลอิสระได้ 2 แบบ

          – ฤทธิ์โดยตรง เกิดจาก thiol หรือ sulfhydryl group ของ NAC สามารถกำจัดพิษ และสารอนุมูลอิสระได้โดยตรง โดยเปลี่ยนสารพิษ และอนุมูลอิสระให้เป็นน้ำ
            – ฤทธิ์โดยอ้อม  NAC เป็นสารตั้งต้นของกลูธาไธโอน ซึ่งช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระภายในร่างกาย โดยเมื่อรับประทาน NAC เข้าไปในร่างกาย จะให้ cysteine ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของกลูธาไธโอน

งานวิจัยล่าสุดของ NAC (N-acetylcysteine) กับ Covid-19

งานวิจัยแบบ RCT ที่กระทรวงสาธารณะสุขประเทศรัสเซีย การนำยาต้นแบบของ NAC (N-acetylcysteine) มาใช้กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด โดยแบ่งผู้ป่วยทั้งหมดเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 22 คน ได้รับการรักษาและให้ยาตามขั้นตอนมาตรฐานหลักของการรักษาโควิด

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยโตวิด-19 จำนวน 24 คน ผู้ป่วย 24 รายได้รับ N-acetylcysteine ร่วมกับการรักษามาตรฐานของผู้ป่วย COVID-19

จากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับยา N-acetylcysteine ควบคู่ไปก้บการรักษามาตรฐาน มีความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ยังพบว่า % Lung damage ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในผู้ป่วยที่ได้รับ N-acetylcysteine

ระดับโปรตีน C-reactive ที่บ่งบอกถึงการอักเสบ ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มการรักษามาตรฐาน

ระยะเวลาการรักษาตัวในโรงพยาบาลในผู้ป่วยที่ได้รับ N-acetylcysteine พบว่าระยะเวลาการนอนโรงพยาบาลลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม

ผลการศึกษาบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของ N-acetylcysteine ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่เกิดอาการปอดอักเสบร่วมด้วย ซึ่งจากฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของ N-acetylcysteine มีความเป็นไปได้ที่จะช่วยยับยั้งการลุกลามของโรคโควิด-19

– Latest Updates –

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
error: Content is protected !!