Skip to content
Home » ข่าวสาร » ทำความรู้จักอาการคออักเสบ เจ็บคอจากไวรัส

ทำความรู้จักอาการคออักเสบ เจ็บคอจากไวรัส

  • by

อาการที่เกิดจากการอักเสบในช่องปากและลำคอ มักมีอาการเจ็บมากขณะกลืนอาหาร หรือกลืนน้ำลาย โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดคือการติดเชื้อไวรัส (Viral pharyngitis) หรือ เชื้อแบคทีเรีย (Streptococcal pharyngitis) 

อาการคออักเสบ มีอาการอย่างไรบ้าง??

  • เจ็บ คัน ในลำคอ
  • กลืนลำบาก
  • หนองสีขาวอยู่บนต่อมทอนซิล
  • ทอนซิล อักเสบ หรือต่อมทอนซิลบวม
  • ต่อมน้ำเหลืองที่ขากรรไกรบวม

อาการคออักเสบจากการติดเชื้อไวรัส มีอาการอย่างไรบ้าง??

  • มีไข้
  • ไอ จาม คันคอ มีน้ำมูก
  • ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ
  • คลื่นไส้ อาเจียน

คออักเสบ หรือคออักเสบเป็นหนอง เกิดจากสาเหตุอะไร

  • อาการผิดปกติจากลำคอ เช่น กล้ามเนื้อในลำคอมีอาการตึง เกิดอาการระคายเคือง หรือมีเนื้องอกอยู่ในลำคอ เป็นต้น
  • เกิดจากผลกระทบของโรค ทั้งไซนัส โรคภูมิแพ้ เป็นกรดไหลย้อน หรือโรคที่ส่งผลต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสในลำคอ
  • เกิดจากสิ่งแวดล้อม อยู่ในพื้นที่การระบาดของเชื้อโรคที่ทำให้เกิดคออักเสบ หรืออยู่ใกล้กับผู้ป่วยจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรค

อาการที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสมากกว่าเชื้อแบคทีเรีย

  • โรคไข้หวัดใหญ่ / ไข้หวัดทั่วไป
  • โรคโควิด-19
  • โรคหัด / อีสุกอีใส
  • โรคโมโนนิวคลิโอซิส

สาเหตุของอาการเจ็บคอที่พบได้บ่อยที่สุด จากการติดเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่

  • ภูมิแพ้ จากการแพ้สิ่งกระตุ้นต่างๆ เช่น ขนสัตว์ เชื้อรา ฝุ่น 
  • มลพิษทางอากาศ PM2.5 ควันรถ ควันบุหรี่
  • การเกร็งกล้ามเนื้อ จากการใช้เสียงดัง การตะโกน เป็นเวลานาน
  • อากาศแห้ง ก็ส่งผลให้อาการทางช่องคอ กำเริบได้ เพราะอาจเกิดการคัดจมูกส่งผลให้ต้องหายใจทางปากอาจทำให้คอแห้งและเจ็บคอได้

การรักษาอาการเจ็บคอจากไวรัส และอาการคออักเสบ

นอกจากยาปฏิชีวนะจะไม่ช่วยบรรเทาอาการอาการเจ็บคอที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสแล้ว การใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ผื่นคัน ท้องร่วง และอาการแพ้รุนแรง โดยทั่วไป อาการเจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัสจะหายไปเองภายใน 4 – 5 วัน วิธีรักษาอาการเจ็บคอที่ได้ผลคือวิธีที่ช่วยลดอาการเจ็บได้ ตัวอย่างได้แก่

  • กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ ความเค็มของเกลือสามารถช่วยลดอาการเจ็บคอได้ โดยแนะนำให้ผสมน้ำเกลือในปริมาณ ¼ ถึง ½ ช้อนชา (1.5 ถึง 3 กรัม) ต่อน้ำอุ่น 1 แก้ว (250 มล.)
  • ยาแก้ปวด  ยาที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้แก่ อะเซตามีโนเฟน (พาราเซตามอล) และยาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) อย่าง ไอบูโพรเฟน ถ้าเลือกในแบบที่มี เกลือ อาจินีน รวมกับไอบูโพรเฟน จะช่วยเพิ่มการออกฤทธิ์ได้เร็ว และไม่กัดกระเพาะอีกด้วย แนะนำให้รับประทานเพียงช่วงสั้นๆ เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้
  • สเปรย์พ่นคอ ในปัจจุบันมีสเปร์ยพ่นคอมากมาย แต่ข้อความระวังในการใช้ ถ้าเป็นชนิดที่มีแอลกอฮอล์หรือยาฆ่าเชื้อผสมอยู่ จะทำให้การใช้ต่อวันไม่ควรเกินย 3 ครั้ง เพราะแอลกอฮอล์อาจทำร้ายเนื้อเยื้อในช่องปากและลำคอได้ ควรสังเกตุพฤติกรรมการใช้ของตนเองว่า ติดการพ่นคอบ่อยเพียงใด เพราะบางคนเมื่อมีอาการเจ็บคอ ระคายคอก็จะหยิบมาพ่นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บที่เกิดขึ้น ซึ่งมันสร้างความทรมานหรือกวนใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ควรเลือกสเปรย์พ่นคอแบบที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ใช้สารสกัดจากทำชาติในการออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อ และดูแลปัญหาอื่นๆ ในช่องปากแทน
  • ยาอมแก้เจ็บคอ ส่วนใหญ่จะมียาชาเฉพาะที่ผสมอยู่ด้วย จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและคอแห้งได้ นอกจากนี้ ยาอมแก้เจ็บคอยังออกฤทธิ์นานกว่าสเปรย์พ่นคอและการกลั้วคอ ดังนั้น จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการเจ็บคอมากกว่า และไม่ควรอมบ่อยหรือมากเกินไป เพราะจะทำให้ตัวยาไปทำลายเชื้อประจำถิ่นที่ร่างกายสร้างขึ้นมาปกป้องเชื้อโรคอื่นๆ ได้

เครื่องดื่มสร้างความชุ่มชื้นให้คอ แนะนำให้เป็นเครื่องดื่มอุ่นๆ เช่น ชาน้ำผึ้ง ชามะนาว ซุปไก่ แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีงานวิจัยที่บอกว่าความเย็นก็สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ นั่นก็คือ ไอศรีมดาร์กช๊อคโกแลค นี่เอง

เมื่อมีอาการเจ็บคอจากไวรัส และอาการคออักเสบ มีวิธีการดูแลตนเองอย่างไร

  • ดื่มน้ำเยอะๆ ะทำให้ลำคอชุ่มชื้นและลดอาการขาดน้ำ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • พักผ่อนให้เพียงพอและงดใช้เสียง
  • จิบน้ำอุ่น หรือ น้ำอุ่นผสมเกลือ บ่อยๆ
  • หลีกเลี่ยงสิ่งเร้าที่ทำให้กระตุ้นอาการได้ เช่น ฝุ่น ควัน PM2.5 สารระคายเคืองเคมีต่างๆ บุหรี่

อาการคออักเสบ กี่วันหาย

ถ้าอาการเกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัส ที่ไม่รุนแรงมาก ร่างกายจะฟื้นตัวได้ในระยะเวลา 3-5 วัน
หากเป็นคออักเสบชนิดเฉียบพลัน (Acute pharyngitis) จะใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน
แต่ถ้าหากเป็นคออักเสบชนิดเรื้อรัง (Chronic pharyngitis) จะใช้เวลานานกว่าประเภทอื่นๆ อาจจะเป็นหลายสัปดาห์กว่าร่างกายจะฟื้นตัวได้สมบูรณ์

ภาวะแทรกซ้อนจากอาการคออักเสบ

การเกิดภาวะแทรกซ้อนอาจเกิดจากการติดเชื้อ การอักเสบ หรือมีหนองเกิดขึ้นในคอ

  • ไซนัสอักเสบ
  • ฝีบริเวณต่อมทอนซิล
  • ไข้ออกผื่นในเด็ก
  • ไตอักเสบเฉียบพลัน

การป้องกันอาการคออักเสบ

สาเหตุของโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อภายในอากาศ หรือการสัมผัสเชื้อโดยตรง จึงควรหลีกเลี่ยงพื้นที่สุ่มเสี่ยงในการแพร่เชื้อ หรือถ้ามีความจำเป็นก็ควรใส่แมสป้องกัน หรือ ใช้สเปรย์พ่นคอที่มีฤทธิ์ป้องกันไวรัสและแบคทีเรียได้ ในส่วนพฤติกรรมอื่นๆ ที่ควรใส่ใจดูแลมากขึ้น อาทิเช่น

  • การล้างมือเป็นประจำ
  • หากอยู่ในพื้นที่การระบาด ให้สวมหน้ากากอนามัย
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสควันสูบบุหรี่ หรือสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้
  • งดใช้ของร่วมกับผู้ป่วยที่มีอาการ

โรคคออักเสบ เกิดขึ้นได้ง่ายในชีวิตประจำวัน หากเราปล่อยปะละเลยการดูแลตัวเอง ควรสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองและหลีกเลี่ยงสถานที่หรือสิ่งเร้าที่ก่อให้การกระตุ้นให้เกิดอาการได้ ควรเลือกใช้ยา, ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและลำคอที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของตนเอง ถ้าเริ่มมีอาการมากขึ้นควรรีบพบแพทย์

– Latest Updates –

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
error: Content is protected !!